รัชกาลที่ 4
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ครองราชย์ พ.ศ. 2394 - 2411 (17 ปี)
ข้อมูลพื้นฐาน
พระนาม: พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
พระราชสมภพ: วันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ.2347
ขึ้นครองราชย์: 4 เมษายน พ.ศ.2394
สวรรคต: 1 ตุลาคม พ.ศ. 2411
ข้อมูลสำคัญ
พระมหากษัตริย์องค์ที่ 4 แห่งราชวงศ์จักรี
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นพระราชโอรส ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย กับสมเด็จพระศรีสุริเยนทรา บรมราชินี
พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย
พระองค์ทรงมีพระปรีชาด้านดาราศาสตร์และโหราศาสตร์ ทรงคำนวณการเกิดสุริยุปราคาได้อย่างแม่นยำ และเสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรสุริยุปราคาที่หว้ากอ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อ พ.ศ. 2411 พระอัจฉริยภาพนี้ทำให้พระองค์ได้รับการถวายพระราชสมัญญาว่า “พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย”
พระมหากษัตริย์นักการทูตและนักปฏิรูป
พระองค์ทรงริเริ่มการเจริญสัมพันธไมตรีกับนานาอารยประเทศอย่างเป็นทางการ เช่น อังกฤษ ฝรั่งเศส สหรัฐอเมริกา โปรตุเกส และเดนมาร์ก สนธิสัญญาเบาว์ริงกับอังกฤษ พ.ศ. 2398 เป็นจุดเริ่มต้นของการค้าเสรีในสยาม และเป็นรากฐานของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในเวลาต่อมา
การยกย่องในระดับโลก
พระองค์ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก (UNESCO) ให้เป็น “บุคคลสำคัญของโลก” ด้านการศึกษา วิทยาศาสตร์ วัฒนธรรม สังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และสื่อสารมวลชน เนื่องในวาระครบรอบ 200 ปี วันพระราชสมภพ เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2547 ซึ่งเป็นเกียรติยศสูงสุดในระดับนานาชาติ
พระราชประวัติ
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย กับสมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี ประสูติเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2347 ตรงกับปีชวด มีพระนามเดิมว่า “เจ้าฟ้ามหามาลา” ต่อมาได้รับการสถาปนาเป็น “เจ้าฟ้ามงกุฎ” พระองค์ทรงมีพระเชษฐาและพระอนุชาหลายพระองค์ โดยพระอนุชาร่วมพระราชมารดาคือ “เจ้าฟ้าจุฑามณี” ซึ่งต่อมาได้รับสถาปนาเป็นพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อทรงพระเยาว์ พระองค์ทรงศึกษาอักขระสมัยและภาษาบาลีจากสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ และทรงมีความสนพระราชหฤทัยในวิทยาการ ความรู้ด้านธรรมะ และการคำนวณโหราศาสตร์เป็นอย่างมาก พระองค์ทรงเป็นแบบอย่างของกษัตริย์นักปราชญ์ที่รักสัจธรรมและการศึกษา"
ก่อนขึ้นครองราชย์
พระองค์ทรงผนวชอยู่ในสมณเพศเป็นเวลายาวนานถึง 27 พรรษา ศึกษาพระธรรมวินัยอย่างลึกซึ้ง พร้อมทั้งศึกษาวิทยาการตะวันตก โดยเฉพาะภาษาอังกฤษและวิชาดาราศาสตร์จากมิชชันนารีที่เข้ามาในสยาม ทรงได้รับการยกย่องจากคณะสงฆ์และขุนนางว่าทรงเป็นผู้มีปัญญา รอบรู้ และมีความเป็นกลางทางศาสนา การครองสมณเพศของพระองค์ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ทรงเตรียมพระองค์ให้พร้อมต่อภาระในการปกครองบ้านเมืองในอนาคต
การขึ้นครองราชย์
เมื่อสิ้นรัชกาลพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว บ้านเมืองเกิดความวุ่นวายทางการเมือง พระบรมวงศานุวงศ์และขุนนางจึงพร้อมใจกันอัญเชิญเจ้าฟ้ามงกุฎขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ เมื่อวันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2394 ขณะมีพระชนมายุ 37 พรรษา ทรงพระนามว่า “พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว” พร้อมกันนั้นได้โปรดเกล้าฯ สถาปนาสมเด็จพระอนุชา เจ้าฟ้ากรมขุนอิศเรศรังสรรค์ ขึ้นเป็น “สมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว” มีฐานะเสมือนพระเจ้าแผ่นดินอีกพระองค์หนึ่ง
พระราชกรณียกิจสำคัญ
หลังจากเสด็จขึ้นครองราชย์ในปี พ.ศ. 2394 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงมุ่งพัฒนาบ้านเมืองให้ทัดเทียมอารยประเทศ ทรงส่งเสริมการติดต่อกับต่างชาติ การศึกษา ศิลปวิทยาการ และวัฒนธรรมสมัยใหม่ พร้อมทั้งทรงฟื้นฟูระเบียบประเพณีและธรรมเนียมต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับยุคสมัย นับเป็นช่วงเวลาสำคัญที่สยามเริ่มก้าวเข้าสู่ความเป็น “รัฐสมัยใหม่” อย่างแท้จริง ดังนี้
- การติดต่อและเจริญสัมพันธไมตรีกับต่างประเทศ:
• พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์พระองค์แรกที่เปิดประเทศรับคณะทูตจากนานาอารยประเทศ เช่น อังกฤษ ฝรั่งเศส สหรัฐอเมริกา โปรตุเกส และเดนมาร์ก
• ทรงแต่งตั้งคณะทูตไทยออกไปเจริญสัมพันธไมตรีตอบแทนหลายครั้ง เพื่อรักษาความสัมพันธ์ทางการค้าและการทูต
• พระราชกรณียกิจเหล่านี้ทำให้สยามมีความสัมพันธ์อันดีกับต่างประเทศและคงความเป็นเอกราชไว้ได้ท่ามกลางยุคล่าอาณานิคม - การส่งเสริมศิลปวิทยาการและเทคโนโลยีสมัยใหม่:
• พระองค์ทรงสนับสนุนให้มีการศึกษาวิทยาการใหม่ ๆ จากตะวันตก เช่น การต่อเรือใบ เรือกลไฟ เรือรบ และการฝึกทหารแบบยุโรป
• ทรงส่งเสริมการเรียนรู้ด้านดาราศาสตร์ โหราศาสตร์ และการใช้เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์
• ทรงนำความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้กับการคำนวณเวลา ปฏิทิน และการกำหนดปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ - พระปรีชาด้านโหราศาสตร์และดาราศาสตร์:
• พระองค์ทรงมีความสามารถด้านโหราศาสตร์และดาราศาสตร์อย่างสูง
• ทรงคำนวณการเกิดสุริยุปราคาได้อย่างแม่นยำ และได้เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรสุริยุปราคาที่หว้ากอ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อ พ.ศ. 2411
• พระปรีชาสามารถนี้ได้รับการยอมรับจากนักดาราศาสตร์นานาชาติ และนำมาซึ่งพระราชสมัญญา “พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย - การยกเลิกธรรมเนียมที่ล้าสมัยและส่งเสริมสิทธิเสรีภาพของประชาชน:
• พระองค์ทรงยกเลิกประเพณีการเข้าเฝ้าที่ต้องถอดเสื้อ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าเฝ้าได้อย่างเหมาะสมและเท่าเทียม
• โปรดให้ประชาชนสามารถถวายฎีกาได้โดยตรงถึงพระมหากษัตริย์ ไม่ต้องผ่านข้าราชการชั้นผู้ใหญ่
• การปรับปรุงเหล่านี้เป็นรากฐานของความใกล้ชิดระหว่างพระมหากษัตริย์กับราษฎร