รัชกาลที่ 4
พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว
พระองค์ที่ 2 ในรัชกาลที่ 4
ครองราชย์ พ.ศ. 2394 - 2411 (17 ปี)
ข้อมูลพื้นฐาน
พระนาม: พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว
พระราชสมภพ: 4 กันยายน พ.ศ. 2351
ขึ้นครองราชย์: 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2394
สวรรคต: 7 มกราคม พ.ศ. 2408
ข้อมูลสำคัญ
พระมหากษัตริย์พระองค์ที่สองของรัชกาลที่ 4 แห่งแผ่นดินสยาม
พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นพระบรมราชโอรสของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย และสมเด็จพระศรีสุริเยนทรามาตย์ทรง โดยเป็นพระอนุชาธิราชในรัชกาลที่ 4 และได้รับการสถาปนาเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ที่สองแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ทรงมีพระเกียรติยศเสมอด้วยพระเจ้าแผ่นดิน และเป็นพระมหาอุปราชที่มีฐานานุศักดิ์สูงสุดในประวัติศาสตร์
พระปรีชาด้านการทหารและเครื่องจักรกล
พระองค์ทรงเชี่ยวชาญวิชาปืนใหญ่ แปลตำราจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทย และทรงจ้างนายทหารอังกฤษเข้ามาฝึกทหารตามแบบยุโรป ด้านกองทัพเรือ พระองค์เป็นผู้นำการใช้เรือกลไฟในสยาม สร้างเรือรบสมัยใหม่ เช่น “เรืออาสาวดีรส” และ “เรือยงยศอโยชฌิยา” จึงได้รับสมญานามว่า “พระบิดาแห่งเครื่องจักรกลสมัยใหม่”
พระอัจฉริยภาพด้านภาษาและองค์ความรู้ตะวันตก
พระองค์ทรงเป็นผู้บุกเบิกการนำวิทยาการตะวันตกเข้าสู่สยาม โดยเฉพาะภาษาอังกฤษที่ทรงใช้ในการติดต่อระหว่างประเทศและการค้า ยังทรงแปลหนังสือภาษาอังกฤษหลายเล่ม ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเปิดโลกความรู้สมัยใหม่ให้กับชนชั้นปกครองไทย
พระอัจฉริยภาพด้านดนตรีและศิลปวัฒนธรรม
พระองค์ทรงคิดประดิษฐ์ “ระนาดทุ้มเหล็ก” ทำให้วงปี่พาทย์ไทยขยายเป็น “วงปี่พาทย์เครื่องใหญ่” ทรงมีวงดนตรีส่วนพระองค์ซึ่งมีชื่อเสียงที่สุดในสมัยนั้น โดยมี “ครูมีแขก” เป็นหัวหน้าวง พระองค์ยังทรงพระราชนิพนธ์เรื่อง “นิทานนายคำสอน” และเป็นกษัตริย์ผู้มีความสามารถในการประพันธ์บทกลอนสักวา
พระราชประวัติ
พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย และสมเด็จพระศรีสุริเยนทรามาตย์ ประสูติเมื่อปี พ.ศ. 2351 เป็นพระอนุชาร่วมพระชนกชนนีกับพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระปรีชาสามารถรอบด้าน ทั้งทางภาษา ดนตรี วิทยาการ และการทหาร
ก่อนขึ้นครองราชย์
เมื่อครั้งยังทรงพระเยาว์ พระองค์ทรงได้รับการศึกษาวิทยาการทั้งของไทยและตะวันตก โดยเฉพาะด้านภาษาอังกฤษและการต่อเรือ ทรงโปรดเครื่องกลกลไกต่าง ๆ และมีความสามารถในการประดิษฐ์คิดค้นสิ่งใหม่ ๆ พระองค์เป็นที่รู้จักของชาวต่างประเทศ โดยเฉพาะหมอบรัดเลย์ มิชชันนารีชาวอเมริกัน ผู้บันทึกว่าพระองค์ทรงเป่าแคนและร้องเพลง “แอ่วลาว” ได้อย่างไพเราะยิ่ง ทำให้ทรงได้รับการยกย่องว่าเป็นกษัตริย์ผู้มีรสนิยมทางศิลปะและดนตรีอันประณีต
การสถาปนาเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ที่2 ในรัชกาลที่4
ต่อมาเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2394 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงโปรดเกล้าฯ สถาปนาเจ้าฟ้ากรมขุนอิศเรศรังสรรค์ ขึ้นเป็น “พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว” ทรงมีฐานะเป็น “พระมหากษัตริย์พระองค์ที่สอง” แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ มีพระอิสริยยศเสมอด้วยพระเจ้าแผ่นดิน และมีหน้าที่ดูแลราชการฝ่ายทหารและกิจการของกรมพระราชวังบวรสถานมงคล พระองค์ทรงปฏิบัติพระราชภารกิจด้วยพระปรีชาสามารถอย่างสูง
พระราชกรณียกิจสำคัญ
พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีบทบาทสำคัญทั้งในด้านการทหาร ดนตรี ศิลปวัฒนธรรม และศาสนา ทรงเป็นกษัตริย์นักปัญญาผู้วางรากฐานวิทยาการและศิลปะสมัยใหม่ให้แก่สยาม
- ด้านการทหารและวิทยาการสมัยใหม่:
• พระองค์ทรงเชี่ยวชาญในวิชาปืนใหญ่ ทรงแปลตำราปืนใหญ่โบราณและตำราปืนใหญ่ไทยจากภาษาอังกฤษ
• ทรงดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารเรือ และนำเทคโนโลยีเรือกลไฟเข้ามาใช้ในราชการ
• พระองค์ได้รับการถวายพระราชสมัญญา “พระบิดาแห่งเครื่องจักรกลสมัยใหม่” - ด้านภาษาและองค์ความรู้:
• พระองค์ทรงเป็นผู้บุกเบิกการใช้ภาษาอังกฤษในราชสำนัก เพื่อใช้ในการติดต่อทางการค้าและการทูต
• ทรงแปลหนังสือภาษาอังกฤษหลายเล่ม เป็นจุดเริ่มต้นของการรับวิทยาการตะวันตกเข้าสู่สังคมไทย
• เป็นรากฐานของการศึกษาภาษาอังกฤษในราชสำนักไทย - ด้านวรรณกรรม ดนตรี และศิลปะการแสดง:
• พระองค์ทรงพระราชนิพนธ์ “นิทานนายคำสอน” ซึ่งเป็นผลงานร้อยแก้วสำคัญ
• ทรงคิดประดิษฐ์ “ระนาดทุ้มเหล็ก” และทรงโปรดบทเพลง “สักวา”
• วงดนตรีในวังหน้าของพระองค์เป็นต้นแบบของวงดนตรีไทยในยุคต่อมา - ด้านศาสนาและการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา:
• พระองค์ทรงบำรุงพระพุทธศาสนาอย่างต่อเนื่อง และทรงบูรณปฏิสังขรณ์วัดในเขตพระบวรราชวัง
• ทรงส่งสมณทูตไปยังประเทศศรีลังกาโดยเรือ “อุดมเดช” เพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรีทางศาสนา
• แสดงถึงพระศรัทธาในพระพุทธศาสนาและความมุ่งมั่นในการเผยแผ่ธรรม